ระบบเครือข่าย
1. ระบบเครือข่ายคืออะไร
ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องใช้ประจำสำนักงาน เริ่มจากการใช้ในงานพิมพ์เอกสาร เก็บข้อมูล
เป็นเครื่องที่ใช้ทำงานคนเดียว เมื่อสำนักงานหรือองค์กรนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้น
เริ่มมีการใช้งานคอมพิวเตอร์หลายรูปแบบ
บางครั้งอาจมีการทำงานเหมือนกันหรือแตกต่างกันก็ได้ บางลักษณะงานที่ต้องใช้ข้อมูลร่วมกัน
ถ้าเจ้าหน้าที่แต่ละคนเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องของตนเอง ความซ้ำซ้อนของข้อมูลย่อมเกิดขึ้น
ทำให้เสียเวลามากขึ้น
บางครั้งข้อมูลไม่ตรงกันจึงได้มีการศึกษาหาวิธีเพื่อเป็นการเชื่อมโยงหรือต่อระบบเครื่องคอมพิวเตอร์เหล่านั้นเข้าด้วยกัน
เพื่อลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลและสะดวกในการใช้งาน การเชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์
โดยมีการกำหนดกฎเกณฑ์ที่ให้เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องสามารถทำงานภายใต้พื้นฐานเดียวกัน เช่น
1)
ข้อมูลที่ส่งและรับภายในเครือข่ายจะต้องถูกต้องและไม่สูญหาย
2)
ข้อมูลที่ถูกส่งจากเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายใดๆ เครือข่ายนั้นจะต้องรู้ว่าข้อมูลนั้นๆ
จะถูกส่งไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องไหน
3)
เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในระบบเครือข่ายจะต้องสามารถแยกแยะได้
4)
จะต้องมีมาตรฐานในการตั้งชื่อและบ่งชี้ส่วนของเครือข่ายชัดเจน
กฎเกณฑ์ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น จะเป็นข้อกำหนดหลักให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ต้อง
ยึดถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ตัวอย่างของเครือข่ายที่ง่ายที่สุด
คือการเชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องเข้าด้วยกัน
โดยอาศัยสายเคเบิลเชื่อมระหว่างพอร์ตของเครื่องพิมพ์
เพื่อการรับส่งแฟ้มข้อมูลระหว่างกัน สำหรับตัวอย่างของเครือข่ายที่สลับซับซ้อนมากขึ้น
เช่น เครือข่ายของระบบธนาคารเป็นต้น
องค์ประกอบของการส่งข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง
จะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ส่วน คือ ผู้ส่ง
(Sender) ผู้รับ (Receiver) และตัวกลางในการส่งสัญญาณ
ซึ่งทำหน้าที่ในการนำข้อมูลจากข้อมูลจากผู้ส่งไปให้ถึงผู้รับ
2. ทำไมเราต้องสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เหตุผลที่ใช้อธิบายถึงความจำเป็นว่าทำไมต้องสร้างระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
มีดังนี้คือ
1)
เครือข่ายคอมพิวเตอร์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานร่วมกัน
2)
เครือข่ายสามารถให้ข้อมูลได้จำนวนมากในเวลาเดียวกัน
3)
เครือข่ายช่วยให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้หลากหลาย
4)
เก็บข้อมูลที่สำคัญในศูนย์ข้อมูลส่วนกลาง
5)
เพื่อลดความซ้ำซ้อนของอุปกรณ์หรือใช้อุปกรณ์ร่วมกันได้
6)
มีความรวดเร็วในการสื่อสารข้อมูล
ซึ่งเหตุผลดังกล่าวข้างต้นทำให้เกิดแนวความคิดว่า
ถ้าเรามีเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้งาน
ที่บ้านและสำนักงาน
หากต้องการทำงานร่วมกันระหว่างที่บ้านและสำนักงาน
เพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลร่วมกัน เราต้องการทำงานร่วมกันระหว่างที่บ้านและสำนักงาน
เพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลร่วมกัน เราต้องทำการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าหากันโดยอาศัยอุปกรณ์พิเศษ
เช่น การใช้โมเด็มติดต่อผ่านคู่สายสัญญาณโทรศัพท์
เป็นต้น
3. ประเภทของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เครือข่ายสื่อสารของคอมพิวเตอร์อาจมีขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กอาจเป็นรูปแบบ
ส่วนบุคคลหรือสาธารณะ
และอาจจะเป็นแบบไร้สายหรือใช้สายหรือใช้ทั้งสองแบบร่วมกัน
ในทำนองเดียวกันเครือข่ายขนาดเล็กอาจจะมีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายขนาดใหญ่
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้งานในปัจจุบันสามารถแยกได้ 3 ประเภทใหญ่
ดังนี้
3.1 เครือข่ายแลนหรือเครือข่ายบริเวณเฉพาะที่ (LAN หรือ Local Area Network)
เป็นเครือข่ายที่นิยมใช้ภายในสำนักงานอาคารเดียวกัน
และองค์กรที่อยู่ในบริเวณเดียวกันหรือใกล้กัน เป็นเครือข่ายระยะใกล้
การเชื่อมต่อสามารถใช้สายเคเบิล สายโคแอกซ์ หรือสายเส้นใยแก้ว
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กรและสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกันได้
ตัวอย่างของเครือข่ายนี้ได้แก่ เครือข่ายคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัย โรงเรียน
และบริษัทหรือห้างร้านต่างๆ
3.2 เครือข่ายแมนหรือเครือข่ายบริเวณนครหลวง (MAN
หรือ Metropolitan Area
Network)
เป็นเครือข่ายที่มีการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้ที่อยู่ในเขตเมืองเดียวกัน
เป็นเครือข่ายขนาดกลางที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนของเมืองนั้นหรือเขตการปกครองนั้น เช่น
เครือข่ายของรัฐต่างๆในประเทศสหรัฐอเมริกา
3.3 เครือข่ายแวนหรือเครือข่ายบริเวณกว้าง (WAN
หรือ Wide
Area Network) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงระบบเข้าด้วยกันในระยะไกล
คลอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศ ระหว่างประเทศ หรือทั่วโลก โดยอาศัยอุปกรณ์ดาวเทียม
สายเส้นใยแก้วนำแสง
หรือคลื่นไมโครเวฟ
เป็นตัวกลางในการสื่อสารระบบเครือข่ายประเภทนี้ที่เรารู้จักกันดีก็คือเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ที่มา
: ถวัลย์วงศ์ ไกรโรจนานันท์ , รศ.ดร และคณะ. หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้
พื้นฐานและเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานพื้นฐานอาชีพ
ช่วงชั้นที่ 3
เทคโนโลยีสารสนเทศ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แม็ค จำกัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น